realme Narzo 60x มิดเรนจ์สเปคครบเครื่อง จอ FHD+ กล้องหลัง 50MP

realme Narzo 60x

realme Narzo 60x สมาร์ทโฟนระดับมิดเรนจ์รุ่นใหม่จากตระกูล Narzo 60 Series ที่เพิ่งเปิดตัวในอินเดียไปเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมันเป็นรุ่นที่มีสเปคอยู่กึ่งกลางระหว่างรุ่นธรรมดากับรุ่น Pro มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ LCD ความกว้าง 6.72 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 13 ใช้ชิปประมวลผลของ MediaTek อย่าง Dimensity 6100+ ให้ขุมพลังสูงสุด 2.2GHz และมีกล้องหลังแบบเลนส์คู่ความคมชัดสูงสุด 50MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 33W ที่สามารถชาร์จแบตได้ถึง 50% ภายในครึ่งชั่วโมง

realme Narzo 60x

realme Narzo 60x มาพร้อมชิปเซ็ต Dimensity 6100+ และ RAM ขนาดสูงสุด 6G

            realme Narzo 60x มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Narzo 60 Series ต่อจาก Narzo 60 รุ่นธรรมดา และ Narzo 60 Pro โดยสเปคของมันถือเป็นรุ่นที่อยู่กึ่งกลางของทั้งสองรุ่นก่อนหน้า มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ LCD ความกว้าง 6.72 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ ใช้สัดส่วนแบบ 20:9 มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลที่ 392 ppi รีเฟรชเรท 120Hz ปรับความสว่างได้สูงสุด 680 nits ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบด้วยอินเทอร์เฟส realme UI 4.0 ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ของ MediaTek อย่าง Dimensity 6100+ ขนาด 6 นาโนเมตร ให้ขุมพลังสูงสุด 2.2GHz ทำงานร่วมกับจีพียู Mali-G57 MC2 ใช้หน่วยความจำ RAM ขนาดสูงสุด 6GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุ 128GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 33W ที่ทางผู้ผลิตเคลมว่าสามารถชาร์จแบตจาก 0 – 50% ได้ภายในเวลาเพียง 29 นาทีเท่านั้น ข่าวเทคโนโลยี มือถือ

realme Narzo 60x Android 13

            นอกจากนี้ Narzo 60x ยังมาพร้อมกล้องหลังแบบเลนส์คู่ ความคมชัด 50MP+2MP พ่วงไฟแฟลช LED และระบบ PDAF สามารถบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps และมีกล้องหน้าความคมชัด 8MP ที่ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูตรงกลางด้านบนหน้าจอ สามารถบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps ในส่วนของการเชื่อมต่อต่าง ๆ ก็รองรับครบครันทั้ง Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.2 และ USB Type-C 2.0 รวมทั้งช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

realme Narzo 60x Narzo 60 Series

             สำหรับrealme Narzo 60xเริ่มวางจำหน่ายในอินเดียแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเขียว (Stellar Green) และสีม่วง (Nebula Purple) โดยสีเขียวจะมีฝาหลังแบบ “Glitter Sand” สะท้อนแสงระยิบระยับ ส่วนราคาจะอยู่ที่ 12,999 รูปี หรือประมาณ 5,xxx บาท ufawallet ส่วนในประเทศไทยคาดาดว่าจะมีการวางจำหน่ายแบบออนไลน์ในเร็ว ๆ นี้

Latest Posts